คนที่อายุ 40 ขึ้นไป หมอจะพิจารณาเป็นเคสไปว่าจะฉีดโบท็อกหน้าผากให้หรือไม่ เพราะบางคนมีอาการตาตกอยู่แล้วก่อนฉีด ถ้าเป็นกรณีนี้หมอก็จะเลี่ยงการฉีด จริงๆแล้วคนที่อายุ 40 ขึ้นไปควรจะฉีดอะไรกันแน่ เพราะเราไม่สามารถฉีดอะไรก็ได้แบบตอนสมัยสาวๆ คนที่ฉึดกรามตอนอายุน้อยๆ พออายุมากขึ้นก็จะเห็นแก้มหย่อน กรอบหน้าไม่ชัด มันเกิดจากการที่กระดูกใบหน้าของเรามันทรุดลงไม่มีตัวพยุงไขมัน มันก็เลยหย่อนลงมาและทำให้กรอบหน้าไม่ชัด การที่เราจะทำอะไรเราต้องปรึกษาแพทย์ก่อน มีคนไข้มาถามหมอว่าถ้าไม่อยากฉีดฟิลเลอร์เรายิงไฮฟู่อย่างเดียวได้รึเปล่า หมอก็จะบอกว่าถ้าเป็นเครื่องของหมอก็จะต้องยิงทุก 4 เดือน การยิงก็ไม่ได้เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ต้องมีการทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ หมอจะถามคนไข้เสมอว่าการทำไฮฟู่คุณคาดหวังอะไร ถ้าบอกว่าต้องการยกกระชับมากๆ หมอจะไม่แนะเพราะเครื่องจะช่วยให้คุณภาพผิวเราดีขึ้น

โบท็อกเองก็เหมือนกันมันเป็นเรื่องของทุกเพศทุกวัย หมอก็ได้มีโอกาสคุยกับหมออ้วนถึงเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ หมออ้วนบอกว่าคนที่มีอายุแล้วฉีดโบท็อกหัวคิ้วจะทิ่มลง หมอลองดูกับตัวเองมันก็ทิ่มลงจริงๆ การฉีดโบท็อกไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการที่จะฉีดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

มีหลายคนที่มาปรึกษาหมอเพราะอยากมาฉีดโบท็อกอยากให้หนังตายกขึ้น บางเคสต้องศัลยกรรมให้คุยกับคุณหมอเกี่ยวกับการผ่าตัด ให้คุณหมอดูก่อนว่ามันเกิดจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงรึเปล่า ถ้าหากไม่ใช่ค่อยกลับเข้ามาหาหมอฉีดโบท็อกก็ยังได้ แต่หากเป็นดคสที่หมอผ่าตัดคอนเฟิร์มมาแล้วว่าต้องผ่าตัดแต่เรากลัวการผ่าตัด หมอต้องบอกก่อนว่าข้อจำกัดของการฉีดคือผลลัพธ์มันได้ไม่เท่ากับการผ่าตัด หมอก็จะประเมินแล้วว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ผลลัพธ์อย่างไร

สรุปแล้วในวัย 40 คนไข้ควรฉีดโบท็อก ก็อยากให้เข้าพบหมอก่อนเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง บางคนเข้าใจว่าฉีดโบท็อกแล้วมันจะตึงตลอดไป ถ้าไม่อยากเข้าคลินิกบ่อยก็เลือกอเมริกา 6 เดือนเข้ามาฉีดครั้ง ของเกาหลีก็ประมาณ 3-4 เดือนครั้ง มีคนไข้ถามว่าไปฉีดโบท็อกมาแล้วรู้สึกปวดคิ้ว ตึงๆหัวอยู่ตลอดเวลา มันเกิดจากการที่กล้ามเนื้อเราอ่อนแรงแล้วร่างกายเรามันพยายามฝืนทำให้มันทำงานได้เหมือนเดิม ส่วนเครื่องกระตุ้นคอลลาเจนมีหลายอย่างมาก คนที่มีฝ้ากระต้องเลี่ยงเครื่องที่เป็นความร้อนเพื่อป้องกันการกระตุ้นให้ฝ้า กระ เข้มขึ้น

โบท็อกมันจะทำงานที่กล้ามเนื้อ ส่วนฟิลเลอร์ทำงานเกี่ยวกับโครงหน้า กล้ามเนื้อ กระดูก ไขมัน คนไข้ที่มาหาหมอหมอก็จะตรวจให้ทั้งหน้า แต่เราก็จะโฟกัสการแก้ปัญหาที่คนไข้กังวลที่สุด แต่คนไข้ที่มาหาหมอก็จะต้องรู้ว่าหน้าของตัวเองควรจะแกไขอะไรบ้าง การที่หมอบอกว่าคนไข้ควรแก้ไขปัญหาอะไรบ้างไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างที่หมอบอก สามารถทำแค่ที่คนไข้กังวลได้หรือทยอยเข้ามาทำก็ได้ หรืออยากไปทำกับคุณหมอท่านอื่นก็ได้ ดังนั้นคนไข้ที่อายุเยอะแล้วการที่จะเริ่มตอนอายุ 40 ก็ยังไม่สายแต่ถ้ามาหาหมอแล้วประเมินหลายอย่างไม่ต้องตกใจเพราะถ้าพึ่งเริ่มมันก็จะมีปัญหาหลายอย่างมาตามอายุเป็นธรรมดา

​

#เพิ่มคอลลาเจน #หน้าตึง #ผิวกระชับ