ฟิลเลอร์ที่คลินิกหมอเนี่ยที่เราทำโปรออกมา 2 ซีซี หรือ 4 ซีซี เพราะว่าดูจากสถิติเก่าในคลินิกว่าที่ผ่านมาใช้กันครั้งละกี่ซีซี จากผลงานวิจัยเนี่ยต้องใช้ถึง 4 ซีซี ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ส่วนมากคนไข้ที่มามักมีปัญหามากกว่า 1 อย่าง กว่าที่เราจะเห็นและเข้ามาหาหมอเนี่ยแสดงว่ามันเป็นเยอะแล้วกว่ามันจะแสดงอาการออกมาให้ให้เราเห็นชัดเจน และเวลาที่เราแก้ปัญหาเราต้องแก้ปัญหาจากส่วนลึกก่อน  และนี่แหละที่เป็นที่มาว่าคนไข้ต้องใช้ 3-4 ซีซี ถ้าคนไข้มาเจอหมอเร็วมากอาจจะจบที่ 2 ซีซี ใต้ตาเป็นน้อยๆเนี่ยที่ 1 ซีซี มักไม่พอต้อง 2 ซีซี นี่เป็นเคสที่ไม่เคยทำอะไรมาก่อน แต่ก็มีหลายเคสที่เติมมาบ้างแล้วจากที่อื่นๆ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่มันมักมาจากอายุ และคนที่อายุมากก็จะกังวลกับใบหน้าส่วนล่าง ลองสังเกตตัวเองดูว่าแก้มเรามันเยอะหรือจริงๆแล้วแก้มเรามันห้อย หากมีกระพุ้งแก้มแล้วมันมักจะมาพร้อมกับร้องน้ำหมาก ร่องแก้มลึก มันมาพร้อมกันหมด วันนั้นดูไลฟ์หมออ้วนพูดดีมากว่าถ้ากำหนดซีซีมาจะเป็นการทำงานที่ยากมาก อย่างเช่นเปรียบเหมือนกับการปั้นดินน้ำมัน ให้ดินน้ำมันมาก้อนนึงแต่ให้ปั้นช้างเราอาจจะปั้นได้เพียงแค่ขาหลังส่วนองค์ประกอบย่างอื่นมันไม่สามารถทำได้ บางทีหมอปรพเมินแล้วว่าคนไข้ต้องใช้ประมาณ 4 ซีซี แต่คนไข้ไหวแค่ 2 ซีซี หมอก็จะแนะนำว่าให้พร้อมสำหรับ 4 ซีซี ก่อนค่อยเข้ามาทำ เพราะคนไข้ฉีดไปแล้วมันไม่ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง การตรวจโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ก่อนการทำหัตถการเป็นอะไรที่สำคัญมาก และการที่เห็นหมอแก้ปัญหาจากด้านบนของใบหน้าทั้งที่แก้มเรามันห้อย เราต้องรู้ก่อนว่ามันร่วงมากจากข้างบนแล้วต้องแก้มาจากต้นทาง ถ้ามาทำตั้งแต่ปลายทางปัญหามันอาจจะแก้ไม่ขึ้น บางครั้งการส่งรูปมาให้ประเมินทางอินบ็อกหมอก็ไม่สามารถตรวจแจ้งได้ว่าจะใช้วิธีไหนในการแก้ปัญหา เพราะจากภาพบางทีเราไม่รู้ว่ามันย้อยมาจากแก้มมันหย่อนหรือจริงๆเป็นที่ไขมัน เพราฉะนั้นการจะแก้ปัญหาให้ตรงจุดต้องเข้ามาตรวจโครงหน้ากับหมอ

      การเข้ามาตรวจกับหมอรู้ปัญหาแล้วการเลือกใช้ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็เป็นเรื่องสำคัญ หมอจะดูจากอายุว่าควรใช้ยี่ห้อไหนบางคนอายุค่อนข้างเยอะเหมาะกับฟิลเลอร์อเมริกาแต่คนไข้เลือกจะใช้ e.p.t.q หมอก็โอเคแต่จะแจ้งก่อนว่ามันก็อาจจะไม่ได้ดังใจเหมือนที่คิดไว้เพราะแรงดึงมันอาจจะไม่ถึง แต่ถ้าจะให้เห็นความเปลี่ยนแปลงจริงๆ ก็ต้องใช้ 4 ซีซี ขึ้นไป

​

#ฟิลเลอร์ #ทำหน้า #ปรับโครงหน้า #ยกหน้า