ตอบคำถามจากInbox
1. ฟิลเลอร์ยกหน้า เกาหลี VS อเมริกา(เทียบรุ่นใหม่ รุ่นเก่า)
ฟิลเลอร์เกาหลี ปี2563 ยี่ห้อที่ผ่านอย.มียี่ห้อ Neuramis รุ่น Deep กล่องดำรุ่นเดียวเท่านั้น ซึ่งยี่ห้อนี้ของปลอมเยอะมากต้องสังเกตดูดีๆ ของปลอมนั้นจะมีคำว่า Lidocaine อยู่หน้ากล่อง ซึ่งคือยาชา แต่ฟิลเลอร์เกาหลีนั้นจะไม่มียาชาผสมอยู่ในฟิลเลอร์ แต่เดี๋ยวนี้จะดูแค่กล่องอย่างเดียวงงจะดูยากแล้ว ต้องโทรถามบริษัทเลยว่า คลินิกนี้ได้สั่งฟิลเลอร์กับทางบริษัทไหม ฟิลเลอร์เกาหลีนั้นจะเหมาะกับการฉีดของคนที่อายุ 20 ปลายๆ แต่ฟิลเลอร์อเมริกาจะเหมาะกับคนที่อายุ 30+ เนื่องจากพอเราอายุเยอะขึ้น กระดูกบนใบหน้าเราจะเริ่มกร่อนไปเรื่อยๆ ทำให้หน้าเราตก ฉะนั้นการใช้ฟิลเลอร์อเมริกาจะมีแรงพยุงหน้ามากกว่าตัวฟิลเลอร์เกาหลี
ซึ่งตอนนี้ในฟิลเลอร์อเมริกาคือยี่ห้อ Juvederm จะมี 2 รุ่นด้วยกันที่นิยมฉีด คือ 1.Voluma 2.Ultra ซึ่ง Voluma นั้นจะดีกว่ากว่า Ultra ตรงที่มีแรงยกมากกว่า และอยู่ได้นานกว่า จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าตกและไม่ค่อยอยากเจ็บตัวบ่อยๆ
2. ฟิลเลอร์ใต้ตา
ในคลินิกเราจะเจอคนที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่คนไข้จะมาฟิลเลอร์ยกหน้าก่อน แล้วพอเราทำการฉีดยกหน้าไป ใต้ตาจะดีขึ้นเกือบ 70% แล้วลูกค้าส่วนใหญ่จะพอใจ เหมือนฉีด 1 ได้ถึง 2การแก้ปัญหา แล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในบางคนอาจฉีดไปแล้วเป็นก้อนได้ บางทีอาจอยู่ได้นาน 3-5ปี จะต้องมาฉีดสลาย คนไข้บางคนจะเข้าใจว่านวดๆกดๆเดี๋ยวก็จะหายไปเอง
3. ฟิลเลอร์ปาก
ทางคลินิกหมอจะรับฉีดปากในคนที่มีปัญหาจริงๆ จะไม่ฉีดเพื่อความสวยงาม ฟิลเลอร์ปากจะเหมาะกับคนที่ปากแห้ง ปากเป็นร่อง ทาลิปแล้วไม่ติด บางคนยังเข้าใจว่า ปากแห้งต้องบำรุงด้วยลิป แต่สาเหตุหลักๆมาจากอายุที่มากขึ้น แล้วคอลลาเจนน้อยลง การฉีดฟิลเลอร์ที่ ดีว่าดี คลินิก หมอจะเน้นการแก้ปัญหา และสัดส่วนที่ถูกต้อง
4. ฟิลเลอร์เติมน้ำให้ผิว
จะเป็นรุ่น Volite ฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว อยู่ได้ประมาณ 9 เดือน โดยปกติแล้ว จะฉีดข้างละ 1 CC แต่ถ้าคนไข้บางคนสะดวกแค่ 2 ข้าง 1CC หมอก็จะเลือกฉีดในส่วนที่แห้งหรือรูขุมขนกว้างก่อน
5. คอร์สรักษาสิว
จากที่ทางคลินิกเก็บสถิติการปรึกษาของคนไข้มา คนไข้จะเป็นสิวในช่วง Covid-19 เพราะต้องใส่แมสปิดปากตลอดเวลา ทำให้อับชื้นและสิวขึ้น และสิวอุดตันจากการแต่งหน้า ซึ่งจริงๆแล้ว คนเราไม่ควรแต่งหน้าเกินวันละ 8 ชม. ต่อให้จะใช้ผลิตภัณฑ์ดีแค่ไหนก็มีโอกาสอุดตันและแพ้ได้ ซึ่งรักษาสิวที่คลินิกจะมีเลเซอร์สลายสิว ถ้าปริมาณสิวบนใบหน้าเกิน 50% ควรจะลงเป็นคอร์สมากกว่ามายิงเลเซอร์สลายสิวเพียงอย่างเดียว ซึ่งการลงเป็นคอร์ส จะรักษาได้ดี เพราะจะมีการกดสิว มาร์คสิวและยากลับไปใช้ที่บ้านด้วย ซึ่งถ้าเราเป็นสิวแล้วสิวเกิดการอักเสบจนลามไปชั้นหนังแท้ จะทำให้มีพังผืดและเป็นหลุมสิวตามมา
6. คอร์สรักษาฝ้า
เมื่อก่อนเราจะให้คนไข้ตัดสินใจเองว่าจะรักษาฝ้าด้วยวิธีแบบไหน แต่ปัจจุบันเราจะอธิบายและบอกคนไข้ก่อน ว่าคนไข้เป็นฝ้าแบบไหน เหมาะกับคอร์สอะไร ซึ่งคนไข้ที่มาคลินิกเรา จะเป็นคนไข้ที่ผ่านคลินิกมาหลายที่แล้ว แล้วเป็นเคสที่เป็นฝ้าค่อนข้างหนัก ซึ่งคุณภาพผิวของคนที่เป็นฝ้านั้น คุณภาพผิวจะแย่ เราจึงแนะทำให้คนไข้ ทำทรีตเม้นท์ ฉีดเมโสฝ้า ทาครีม เพื่อประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นหลังจากยิง PICOSURE มา
7. โบท๊อกซ์เป็นประจำสม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนยี่ห้อมันดียังไง?
ที่คลินิกดีว่าดี จะขายโบท๊อกซ์อยู่ 2 ยี่ห้อ คือ Allergan,Hugel เพราะเราไม่อยากให้คนไข้ฉีดหลายยี่ห้อ เพราะจะเสี่ยงต่อการดื้อโบท๊อกซ์ ซึ่งจริงๆแล้ว โบท๊อกซ์ส่วนใหญ่จะผลิตมากจากโรงงานเดียวกัน แต่แค่สร้างยี่ห้อเป็นของตัวเอง ดังนั้นคุณภาพจึงไม่ต่างกันมาก ถ้าคนไข้ที่ฉีดโบท๊อกซ์เป็นประจำ จะเห็นได้ชัดว่า 1ปีผ่านไป คนไข้จะเห็นว่าริ้วรอยที่หน้าดีขึ้น กว่าคนทีไม่ได้ฉีดหรือนานๆฉีดที
8. เมโส growth
จะเหมาะกับคนไข้อายุ 35ปีขึ้นไป ทำแค่เดือนละครั้ง Growth factor มีหน้าที่ฟื้นฟูบำรุงผิวหน้า ซึ่ง Growth factor จะผลิตก็ต่อเมื่อผิวหน้าเรามีการบาดเจ็บ การทำเมโส Growth จะเป็นการกระตุ้นด้วยเข็มเล็กๆ ให้ผิวหน้ามีการบาดเจ็บเล็กน่อยเพื่อให้ผิวสร้าง Growth factor ขึ้นมา และในส่วนผสมในเมโส ก็จะมี Growth factor เป็นหลัก
9. ไมโครอินฟิวชั่น
เหมาะกับคนที่ต้องการออกงานหรือใช้ผิวหน้าภายใน 3-4 วัน รูขุมขนจะกระชับ หมอจะผสมสูตรตามปัญหาผิวหน้าของคนไข้ ทำแค่เดือนละครั้ง
#หน้าใส #ขาว #สิว #โบท๊อกซ์สระบุรี #botox #filler #ฟิลเลอร์สระบุรี #ฟิลเลอร์ยกหน้า #ลดริ้วรอย #ฝ้า #picosure