เคสเข้ามาปรึกษาอายุประมาณ 34 ปี มีก้อนในร่องบริเวณแก้มข้างซ้าย ระบุว่าเป็นหลังฉีดฟิลเลอร์ ส่งรูปมามองไม่เห็นว่ามีก้อนคนไข้ระบุว่าต้องทำถึงจะเจอก้อน ไปฉีดฟิลเลอร์มาและเป็นก้อนจึงกลับไปคลินิกที่ฉีดแต่หมอบอกไม่ใช่ฟิลเลอร์จึงไปคลินิกอื่นต่อก็บอกว่าเป็นก้อนแต่ไม่น่าใช่ฟิลเลอร์จึงมาที่คลินิกเราต่อ คุณหมอบีจึงทำดูและรู้ว่าเป็นก้อนแข็งที่ไม่ก้อนฟิลเลอร์ สันนิษฐานว่าก้อนนี้ไม่น่าใช่ก้อนฟิลเลอร์แต่เป็นก้อนอย่างอื่นอย่างเช่นพวกก้อนไขมันหรือจะเป็นพวกต่อมน้ำเหลืองก็ได้ มีประวัติเคยเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบ เพราะคนไข้เคยฉีดฟิลเลอร์จึงคิดว่าเป็นก้อนฟิลเลอร์ แต่จริงๆอาจจะมีก้อนนี้อยู่ก่อนแล้วก็ได้แต่ไม่ได้สังเกตเพราะจากรูปถ่ายหรือมองตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นได้ต้องใช้มือคลำ

     การฉีดทั้งหน้าจะมีการระบม  ถ้าเป็นเคสทั่วไปหน้าผากจะใช้ประมาณ 2-3 ซีซี เฉพาะหน้าผากไม่รวมขมับ ถ้าหน้าผากส่วนตัวหมอจะใช้ Volift หรือ e.p.t.q.สีส้ม ขนาดจากข้างละ 1 ซีซี แต่ถ้าหากไม่เยอะใช้ข้างละครึ่งซีซี สรุปส่วนบนจะใช้ทั้งหมดประมาณ 5 ซีซี ถ้าเติมเฉยๆใช้ e.p.t.q. ก็ได้ แต่ถ้าต้องการยกด้วยต้องใช้ Juvederm

     ต่อมาเรื่องใต้ตา จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณไม่เกิน 2 ซีซี เติมตัวแข็งเพื่อดันหรือยกขึ้นมาก่อน เหตุผลคือมันจะมีเรื่องกระดูกยุบบริเวณใต้ตา ส่วนใหญ่หมอบีจะใช้ตัวแข็งเติมพยุงข้างละครึ่งซีซี ส่วนใหญ่ถ้าอายุยังไม่เยอะ 20-30 หมอจะใช้ตัว Vobella ข้างละครึ่งซีซี ถ้าถามว่า e.p.t.q.ใช้เติมใต้ตาได้ไหมตอนนี้ e.p.t.q.ยังไม่มีตัวที่สามารถเติมใต้ตาได้ต้องใช้ Volite

     Midface และเบ้าตาใช้ 1-2 ซีซี จะแก้ปัญหาเบ้าตาและร่องแก้ม แต่การแก้ปัญหาของหมอจะทำตามที่คนไข้กังวล

     Lower face สามารถปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้นได้ คนไข้ส่วนใหญ่จะขอแก้มกับกระดูกกรอบหน้าหรือกรามชัด กรอบหน้าชัดหรือไม่ชัดขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย อันดับแรกคือแก้มห้อยกระพุ้งแก้มห้อยลงมาปิดตรงจอไลน์ต้องยกขึ้น ถ้าแก้มเยอะต้องใช้วิธีผสมโดยการโบท็อกร่วมด้วยและการสลายไขมัน (ขั้นตอนแรกยกขึ้น ขั้นที่ 2 โบท็อกซ์ช่วย ขั้นที่ 3 สลายไขมันร่วมด้วย) และสามารถเติมคางเพื่อยืดเนื้อออกให้เขียนกรามชัดขึ้น สรุปแล้วกรามหรือจอลายกรอบหน้าใช้ประมาณ 4-5 ซีซี คาง 1-2 ซีซี

     เทคนิคการทำปากให้สวยคือค่อยๆเติม ปากมีการขยับตลอดเวลาฟิลเลอร์ก็จะสลายเร็ว บริเวณที่ฟิลเลอร์สลายเร็วจะมีบริเวณปากและบริเวณร่องแก้มเนื่องจากมีการขยับบ่อย

   ถ้าหากใบหน้ามีปัญหาจริงๆประมาณ 10 ซีซี แต่ที่หมอบีเคยทำมาเยอะที่สุดเกือบ 20 ซีซี ถ้าหากคนไข้มีบริเวณที่กังวลมากหรืองบประมาณที่จำกัดสามารถปรึกษากับหมอได้เลยหมอจะบริหารการใช้ยาให้เหมาะสมที่สุดในแต่ละจุด

     กรามฉีดโบท็อกได้มากที่สุด 50 ยูนิต

     หมอบีคิดยังไงกับการที่บอกว่าหลังร้อยไหมจะเกิดแผลเป็นใต้ผิว อาจจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังอย่างเช่นรอยแผลเป็นหรือการติดเชื้อ

     ฉีดเมโสแฟต คนที่ตอบสนองก็จะเห็นผลตั้งแต่ขวดแรก แต่บางคนฉีดไป 2-3 ขวดก็ไม่รู้สึกแสดงว่าคนๆนั้นไม่มีการตอบสนองต่อเมโสแฟต

     มีบางปัญหาที่ฟิลเลอร์แบบโบท็อกไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เช่น กรามเบี้ยวอันนี้แนะนำให้ไปผ่าตัดศัลยกรรม

    โบท็อกจะออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อผลที่ได้ก็คือเลือกริ้วรอย ลดเหงื่อ ลดกินรักแร้ ส่วนฟิลเลอร์จะมีหน้าที่เติมเต็มหรือยกพยุงปรับโครงหน้า สำหรับโบท็อกหากฉีดไปแล้วโดนเส้นเลือดมีอาการเขียวไม่ต้องกังวลเพราะไม่เกิน 1 สัปดาห์ มันก็จะหายไปเอง ปัญหาใต้ตาคล้ำถ้าหากเติมฟิลเลอร์แล้วยังไม่ดีขึ้นมักเป็นปัญหาที่สีผิว

#ฟิลเลอร์ #ฟิลเลอร์ทั้งหน้า #ฉีดฟิลเลอร์ #ปรับรูปหน้า