​

 

ข้อ1.หน้าเราจะแห้งขึ้น สังเกตุไหมเวลาวัยรุ่นหน้าเราจะมีปัญหาหน้ามัน แต่พออายุเยอะขึ้นหน้าจะยิ่งแห้ง แล้วใครที่เคยหน้ามันก็จะไม่ค่อยทาครีมเพราะว่ากลัวจะหน้ามันกว่าเดิม มีหลายเคสมากที่หมอตรวจผิวหน้าแล้วคนไข้มีปัญหาความแห้งของผิวหน้า

ซึ่งคนไข้จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ หน้าของตัวเขานั้นมัน หมอก็จะอธิบายถึงสาเหตุที่หน้าเรามันให้ฟังว่า ปัญหาก็คือผิวชั้นล่างเรามันแห้ง ไม่มีน้ำ ทีนี้น้ำบนหน้าเราระเหยออกจากผิว ร่างกายเราก็จะมีกลไกว่าน้ำบนหน้าระเหยออกไปก็เลยผลิตน้ำมันเข้ามาบนผิวเพื่อปกป้อง

 

ดังนั้นวิธีแก้ก็คือ พยายามทาครีมลงไป ดูแลตัวเอง หรือจะทำทรีตเม้นต์ก็ได้ ถ้ารู้สึกว่าทาเองไม่พอ บำรุงเพื่อให้ผิวข้างล่างไม่แห้ง แล้วสุดท้ายร่างกายของเราจะไม่ผลิตน้ำมันออกมา ให้คิดไว้เสมอว่า "หน้าเรายิ่งแก่ยิ่งแห้ง" เพราะฉะนั้นให้หมั่นทาครีม

 

2.รู้สึกผิวไม่แน่น ยิ่งอายุเยอะปัญหาคอลลาเจนในผิวเราจะลดลงเรื่อยๆตั้งแต่เราอายุ 20 ปีละ 2% และหายมากขึ้นไปเรื่อยๆ

ฉะนั้นการกินหรือการฉีดอะไร ให้ตัวเราเป็นคนสังเกตุเองว่ามันได้ผลกับตัวเราเองไหม แต่สำหรับตัวที่ช่วยปัญหาเรื่องคอลลาเจนบนหน้าหายไปคือ HIFU เพราะมีงานวิจัยรองรับ เป็นอัลตร้าซาวน์ความร้อน กระตุ้นให้ผิวเราสร้างคอลลาเจนขึ้นมา งานวิจัยได้ลองทำการทดลอง ยิงไปแล้วเอาผิวชิ้นนั้นมาตรวจมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้นจริง

 

ดังนั้นถ้าใครมีปัญหาหน้าไม่แน่นอยากมีคอลลาเจนในผิวให้ทำ HIFU ไม่ว่าจะทำที่ไหน ให้ดูทั้งราคา ให้ดูทั้งเครื่อง ซึ่งเครื่องHIFUเครื่องจีนก็มีขาย เพราะงั้นเราต้องดูว่าเครื่องมีมาตรฐานเชื่อถือได้ไหม HIFU สามารถทำได้ทุก 6 เดือน 90% ทำแลเวจะกลับมาทำอีก

 

3.โครงหน้าเราจะเปลี่ยนไป หน้าเราจะตกลง แก้มจากที่เคยมีพวงแก้ม ก็จะหล่นลงมา ขมับตอบ กระดูกชัดขึ้น ฟันก็จะงุ้มออกมา นี่คือปัญหาของคน 30+

 

ดังนั้นปัญหาตรงนี้ต้องฉีดฟิลเลอร์พยุงหน้าให้กลับไปที่เดิม หรือฉีดเติมไขมันมบหน้าเพื่อทดแทนไขมันที่หายไป

 

4.ริ้วรอย เจอกับคนที่อายุใกล้ 30+ ถ้าเราเป็นคนที่ใช้กล้ามเนื้อเยอะ แสดงสีหน้าเยอะ งานเครียด  ฉีดไปเลยโบท๊อกซ์  เริ่มได้ตั้งแต่25+ การโบท๊อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อเราไม่ขยับเยอะ จะเป็นการป้องกันริ้วรอยตื้นๆที่ในอนาคตอาจจะกลายเป็นร่องลึกได้ ถ้าเราไม่ได้ฉีดโบท๊อกซ์ ร่องลึกจะเกิดได้ พอมีร่องลึก เราจะต้องแก้ด้วยฟิลเลอร์แทน

 

5.เส้นเลือดบนหน้าหรือหน้าแดงง่าย เกิดจากเส้นเลือดบนใบหน้าของเราเริ่มไม่แข็งแรง จะแตกง่าย แดงง่าย ก็จะไปสัมพันธ์กับปัญหาของคนอายุเยอะที่ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว หน้าจะชอบแดงขึ้นมาและsensitiveได้ง่าย

 

6.ผิวเริ่มแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย จะสัมพันธ์กับหลักการผิวหน้าแห้งและเส้นเลือดที่มาเลี้ยงบนผิวหน้าเรา ไม่ดีไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าอยากให้หน้าแข็งแรง ให้หมั่นทาครีม เน้นช่วงก่อนนอน มาร์คหน้าให้ความชุ่มชื่น ทำHIFUทุก6เดือนเพื่อเพิมคอลลาเจนให้ผิวหน้า หรือถ้าหน้าแห้งมากจะแนะนำให้ฉีด Volite เพิ่มความชุ่มชื่นใต้ชั้นผิว ฉีดครั้งนึงอยู่ได้ 9 เดือน

 

7.ผิวเราไม่ขาว ไม่กระจ่างใสเหมือนแต่ก่อน หน้าไวต่อแดด ก็จะสัมพันธ์กับเรื่องเม็ดสีในชั้นผิว เมื่อหน้าเราเจอรังสีหรือแดด หน้าเราจะสร้างเม็ดสีขึ้นมา ทำให้หน้าคล้ำ

 

8.Age Spots คือ จะมีจุดต่างๆบนผิวหน้า หรือที่เราเรียกว่า กระเนื้อ กระแดด

 

9.จะรู้สึกไฝหรือปานต่างๆ นูนขึ้นมา จะมีความขรุขระไม่เรียบไปกับผิวหน้า ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นมะเร็งผิวหนังได้  ส่วนใหญ่มักจะเจอในคนยุโรป มากกว่าคนเอเชีย ซึ่งคนเอเชียเม็ดสีจะมีความแข็งแรงกว่าคนยุโรป จะไม่ค่อยกลายเป็นเนื้อร้าย

 

10.ผิวจะดูเหลืองขึ้น  ก็จะสัมพันธ์กับการทำงานของเม็ดสีที่ได้กล่าวไปใน ข้อ.7 ซึ่งพอเม็ดสีทำงานหน้าจะคล้ำ ซึ่งปกติเม็ดเลือดขาวจะค่อยช่วยปรับเม็ดสีของเราให้น้อยลง แต่เนื่องด้วยอายุมากขึ้นร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวน้อยลง จึ่งทำให้การทำงานของเม็ดสีมากขึ้น ดังนั้นการทาครีมกันแดดสำคัญมาก แล้วจะต้องทาทั้งเช้าและบ่าย ถ้ารู้สึกว่าไม่อยากทาหรือไม่มีเวลา ให้ซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นรุ่นสเปรย์

​

#ปัญหาผิว #ปัญหาผิวหน้า #หน้ามัน #รูขุมขน #หน้าแห้ง #หน้าลอก #กระ #ฝ้า